United States Visa Applications
เราให้บริการประเมินวีซ่าฟรีเพื่อช่วยผู้ที่ต้องการเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกา เพื่อดูว่าพวกเขาสามารถเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาภายใต้โปรแกรมการยกเว้นการขอวีซ่าหรือจำเป็นต้องขอวีซ่า เว็บไซต์นี้ดำเนินการโดยบริษัทเอกชนและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทางการอเมริกา เราไม่ได้อนุมัติ ESTA หรือวีซ่า

โปรแกรม ESTA

ESTA เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อการอนุญาตให้เดินทาง ซึ่งประเทศสหรัฐอเมริกาบังคับใช้กับพลเมืองของประเทศที่อยู่ในโปรแกรมยกเว้นการขอวีซ่า (VWP) การบังคับใช้ ESTA เป็นการดำเนินการตามคำแนะนำ 9/11 ของบัญญัติ ค.ศ. 2007 ESTA ใช้ระบบอัตโนมัติในการพิจารณาว่าผู้เดินทางมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเข้าประเทศสหรัฐฯภายใต้โปรแกรม VWP ได้หรือไม่ อย่างไรก็ตามโปรแกรม ESTA ไม่ได้พิจารณาว่าผู้เดินทางจะได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศหรือไม่ โดยการอนุญาตให้เข้าประเทศจะอยู่ในดุลยพินิจของหน่วยงานศุลกากรและตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ (CBP) เมื่อผู้เดินทางเดินทางไปถึงสหรัฐอเมริกา
คุณสามารถยื่นคำร้องขอ ESTA ( ซึ่งคุณจะต้องกรอกข้อมูลของคุณ รวมถึงตอบคำถามเกี่ยวกับคุณสมบัติของคุณ) ได้ทุกเวลาก่อนที่คุณจะเดินทางไปยังสหรัฐฯ และคุณยังสามารถขอ ESTA ได้ที่สนามบินที่คุณบินออก แต่ตามกฎทั่วไปแล้ว ทางที่ดีที่สุดคือการยื่นคำร้องตั้งแต่เริ่มเตรียมการเดินทางและก่อนซื้อตั๋วเครื่องบินไปยังสหรัฐอเมริกา
การยื่นขอ ESTA เป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากหากคุณไม่มี ESTA คุณอาจไม่ได้รับอนุญาตให้เช็คอิน โดยกฎนี้บังคับใช้กับทั้งทารกและผู้ใหญ่

ข้อกำหนดของ ESTA นั้นบังคับใช้สำหรับผู้ที่เดินทางโดยทางอากาศหรือทางเรือเท่านั้น โดยเครื่องบินหรือเรือจะต้องได้รับการอนุมัติ หากคุณเดินทางไปสหรัฐอเมริกาจากเม็กซิโกหรือแคนาดาโดยทางบก คุณไม่จำเป็นต้องใช้ ESTA และคุณไม่จำเป็นต้องใช้ ESTA หากคุณเดินทางไปยังรัฐวอชิงตันจากวิคตอเรีย หรือ แวนคูเวอร์ ในบริติช โคลัมเบีย ของแคนาดา โดยเฟอร์รี่

VWP อนุญาตให้คุณพำนักในสหรัฐอเมริกาได้ไม่เกิน 90 วัน หากคุณเดินทางไปเม็กซิโก, แคนาดา, หมู่เกาะแคริบเบียน หรือ เบอร์มิวดา จากสหรัฐฯ เวลาที่คุณพำนักในประเทศเหล่านั้นจะถูกนับเป็นส่วนหนึ่งของระยะเวลา 90 วัน


ประเทศที่มีคุณสมบัติในการขอ ESTA

เลขาธิการกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิและเลขาธิการแห่งรัฐของสหรัฐอเมริกามีอำนาจในการตัดสินใจร่วมกันว่าประเทศอยู่ในโปรแกรม VWP คุณจะต้องเป็นพลเมืองของประเทศที่อยู่ในโปรแกรม จึงจะมีสิทธิ์ได้รับการยกเว้นการขอวีซ่า หากคุณไม่ได้เป็นพลเมืองของประเทศ VWP แต่เป็นผู้มีถิ่นพำนักอาศัยถาวรในประเทศนั้นๆ ถือว่าคุณไม่มีคุณสมบัติเพียงพอ
บัญญัติการตรวจคนเข้าเมืองและสัญชาติของสหรัฐอเมริกา(บรรพ 8 ว่าด้วยกฎหมาย U.S.C. § 1187) ได้กำหนดข้อกำหนดเบื้องต้นสำหรับประเทศที่มีคุณสมบัติในการเข้าร่วม VWP ในมาตรา 217 (c)(2)(A)
ได้ระบุว่าอัตราการปฏิเสธวีซ่าของวีซ่าสำหรับคนอยู่ชั่วคราวนั้นจะต้องน้อยกว่าหรือเท่ากับ 3% และยังมีปัจจัยอื่นๆที่สำคัญ เช่น การทำตามกฎหมายตรวจคนเข้าเมืองและการมีระดับความปลอดภัยของหนังสือเดินทางสูง ในเดือนมกราคม 2016, ได้มีการยกเลิก ESTAs ของผู้ที่ถือสองสัญชาติ โดยมีสัญชาติหนึ่งเป็นสัญชาติของประเทศต่อไปนี้: อิรัค, ซีเรีย, อิหร่าน และ ซูดาน ผู้ที่ถือสองสัญชาติเหล่านี้จะต้องยื่นคำร้องขอวีซ่าท่องเที่ยวแบบทั่วไปเพื่อเดินทางไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา

หากคุณมี ESTA และเมื่อคุณเดินทางไปถึงสหรัฐฯ และ CPB พิจารณาว่าคุณได้เดินทางไปประเทศอิรัค, ซีเรีย, อิหร่าน, ซูดาน, โซมาเลีย, ลีเบีย, หรือเยเมน หลังวันที่ 1 มีนาคม 2011 คุณจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศเว้นแต่คุณจะได้รับการยกเว้น อย่างไรก็ตาม ESTA ของคุณจะไม่ถูกยกเลิก

อาจมีการให้ข้อยกเว้นประเภทนี้ สำหรับผู้ที่เดินทางไปประเทศข้างต้นโดยเป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการขององค์กรระหว่างประเทศหรือระดับภูมิภาค, องค์กรเพื่อมนุษยธรรมที่ไม่แสวงหาผลกำไร, หรือรัฐบาลท้องถิ่น ข้อยกเว้นประเภทนี้อาจออกให้กับนักข่าวที่เดินทางไปยังหนึ่งในประเทศข้างต้นนี้เพื่อรายงานข่าว ข้อยกเว้นเหล่านี้จะถูกพิจารณาเป็นกรณีๆไป และอยู่ภายใต้ดุลยพินิจของเลขาธิการกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ซึ่งจะพิจารณาการยกเว้นโดยดูจากความมั่งคงของสหรัฐฯ หรือข้อกำหนดของกฎหมายเป็นหลัก

                                                                   

กระบวนการยื่นคำร้องขอ ESTA

ตามคำแนะนำของรัฐบาลสหรัฐฯ ควรทำการยื่นคำร้องขอ ESTA อย่างน้อย 72 ชั่วโมง (3 วัน) ก่อนการเดินทางไปยังสหรัฐฯ ผู้ยื่นคำร้องส่วนใหญ่จะได้รับการอนุมัติอย่างรวดเร็ว (ภายในหนึ่งนาที); ระยะเวลา 72 ชั่วโมงเป็นเพียงคำแนะนำเท่านั้น ไม่ใช่ข้อบังคับ
พึงระลึกไว้ว่า หากคุณไม่มีคุณสมบัติเพียงพอสำหรับ ESTA คุณจะต้องยื่นคำร้องขอวีซ่าที่สถานทูตหรือสถานกงสุลสหรัฐอเมริกา ซึ่งใช้เวลานานกว่ามาก และอาจจะต้องมีการสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่กงสุลของสหรัฐฯ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วอาจทำให้เกิดความล่าช้าในการเดินทางไปยังสหรัฐฯเพื่อธุรกิจอย่างกะทันหัน ดังนั้นคุณควรเผื่อเวลาเตรียมตัวยื่นขอวีซ่าด้วย

ใบอนุญาตเดินทาง ESTA มีอายุสองปี แต่คุณจะต้องยื่นคำร้องขอ ESTA ใหม่ หากคุณทำการเปลี่ยนชื่อ, เพศ, หรือประเทศที่เป็นพลเมือง หรือหากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆในคำตอบของคำถามวัดคุณสมบัติในการยื่นคำร้อง ESTA หรือเมื่อคุณทำหนังสือเดินทางใหม่

ESTA อนุญาตให้คุณอยู่ในสหรัฐฯและประเทศเพื่อนบ้านได้เป็นเวลาไม่เกิน 90 วันโดยไม่สามารถต่อเวลาได้ หากคุณต้องการพำนักอาศัยเป็นเวลานานกว่านั้นคุณควรยื่นคำร้องขอวีซ่า

เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานศุลกากรและตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ (CBP) เป็นผู้ตัดสินใจว่าคุณได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาหรือไม่ ซึ่งพวกเขาสามารถปฏิเสธหรือยกเลิก ESTA ของคุณได้ทุกเมื่อในระหว่างการเดินทางของคุณ ดังนั้นการมี ESTA ไม่ได้เป็นเครื่องยีนยันว่าคุณจะสามารถเข้าประเทศสหรัฐฯได้

โปรแกรมยกเว้นการขอวีซ่า (VWP)

VWP หรือ โปรแกรมยกเว้นการขอวีซ่า เป็นโปรแกรมการอนุญาตให้เดินทางของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งให้แก่พลเมืองของบางประเทศ โดยจะอนุญาตให้ผู้เดินทางจากประเทศเหล่านั้นเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกาได้โดยไม่ต้องใช้วีซ่าเป็นระยะเวลาไม่เกิน 90 วันเพื่อจุดประสงค์ทางธุรกิจหรือการท่องเที่ยว โดยผู้เดินทางภายใต้โปรแกรม VWP สามารถเดินทางได้ทั้ง 50 รัฐ รวมถึงหมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐอเมริกา และเปอร์โต ริโก โดยโปรแกรม VWP จำกัดการเดินทางไปยังดินแดนอื่นๆของสหรัฐฯ

การเลือกและสถานะของประเทศ VWP

ประเทศที่ได้รับการคัดเลือกให้อยู่ใน VWP เป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจที่พัฒนาแล้วและมีรายได้สูง รวมถึงมีอัตราการพัฒณามนุษย์สูง เมื่อประเทศได้รับการเสนอชื่อให้เข้าร่วม VWP กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯจะเริ่มตรวจสอบนโยบายเกี่ยวกับการตรวจคนเข้าเมืองและความมั่นคง(ภายใน)ของประเทศ กระบวนการเสนอชื่อจะจบด้วยการยอมรับหรือปฏิเสธ แต่กระบวนการนี้อาจดำเนินไปอย่างไม่มีสิ้นสุด

การเสนอชื่ออาจเกิดขึ้นหลังจากสถานะ “โรดแมพ” ประเทศโรดแมพคือประเทศที่อยู่ในระหว่างการตกลงกับสหรัฐฯในการเข้าร่วม VWP โดยโรดแมพนี้ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2005 โดยในตอนแรกมี 19 ประเทศที่เข้าร่วม โดยเก้าประเทศจากประเทศเหล่านี้ คือ (อาร์เจนตินา, บราซิล, อุรุกวัย, โปแลนด์, โรมาเนีย, บัลแกเรีย, ไซปรัส, อิสราเอล, และตุรกี) ยังคงอยู่ในระหว่างการตกลง แต่ 10 ประเทศที่เหลือปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ VWP แล้ว

ประเด็นเฉพาะที่มีผลต่อคุณสมบัติของ VWP

คุณสมบัติอาจขึ้นอยู่กับสภาวะแวดล้อมที่ต่างกันไป โดยบางประเทศอาจถูกถอดออกจาก VWP ได้ทุกเมื่อ โดยทั่วไปแล้วเหตุผลที่จะทำให้ถูกถอดออกจาก VWP คือการเปลี่ยนแปลงของสภาวะแวดล้อมที่ทางการสหรัฐฯคิดว่าอาจเพิ่มโอกาสที่พลเมืองของประเทศนั้นจะพำนักเกินระยะเวลาที่กำหนด, ทำงานแบบผิดกฎหมาย หรือไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับของ VWP

ดังนั้นหมายความว่าความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศอาจทำให้เกิดผลทางอ้อมต่อคุณสมบัติของประเทศ (ถึงแม้จะไม่ได้เป็นปัจจัยที่ส่งผลโดยตรง) ดังนั้นในมุมองของสหรัฐฯ พลเมืองของประเทศที่อาจมีความไม่มั่นคง เหล่านี้ มีโอกาสที่จะไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของวีซ่าหรืออาจทำงานในสหรัฐฯโดยไม่มีใบอนุญาตมากกว่าพลเมืองของประเทศที่มีสภาวะทางเศรษฐกิจและการเมืองที่พัฒนาแล้วและมีความมั่นคง โดยทั่วไปแล้วกงสุลสหรัฐฯจะนำปัจจัยเหล่านี้ไปพิจาณาสำหรับการยื่นคำร้องขอวีซ่า

อาร์เจนตินา (2002) และอุรุกวัย (2003) เสียสถานะ VWP เนื่องจากความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจที่เกิดจากวิกฤตการณ์ทางการเงิน; โดยสหรัฐฯมีความวิตกว่าพลเมืองจำนวนมากของประเทศใดประเทศหนึ่งนี้อาจย้ายถิ่นฐานไปยังสหรัฐฯ และอยู่เกินระยะเวลาที่กำหนด สภาวะการณ์อื่นๆอาจมีผลต่อการเป็นสมาชิก VWP ได้ รวมถึงการปฏิบัติต่อพลเมืองสหรัฐฯของประเทศต่างๆ ซึ่งนี่เป็นเหตุผลที่ประเทศอิสราเอลไม่ได้อยู่ใน VWP ; เป็นที่ทราบกันว่าอิสราเอลได้ตรวจสอบผู้เดินทางชาวปาเลสไตน์-อเมริกันอย่างเข้มงวด ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงร่วมกัน

ประเทศอื่นๆสามารถสมัครเพื่อเข้าร่วมใน VWP โดยมีห้าประเทศในสหภาพยุโรป (บัลแกเรีย, ไซปรัส, โครเอเชีย, โปแลนด์, และโรมาเนีย) ที่ยังไม่ได้อยู่ใน VWP โดยในที่นี้มีเพียงประเทศโครเอเชีย ซึ่งเพิ่งเข้าร่วมในสหภาพยุโรปเท่านั้น ที่ยังไม่ได้อยู่ในประเทศโรดแมพ สหภาพยุโรปได้มีการกดดันสหรัฐฯให้เพิ่มประเทศเหล่านี้เข้าไปใน VWP และในปี 2014 บัลแกเรียได้ก้าวไปอีกขั้นด้วยการกล่าวว่าหากบัลแกเรียไม่ได้สถานะ VWP บัลแกเรียจะไม่ลงชื่ออนุมัติเขตการค้าเสรี TTIP (Transatlantic Trade and Investment Partnership)

ประวัติของ VWP

โปรแกรมยกเว้นการขอวีซ่า เริ่มจากกฎหมายที่ผ่านโดยสภาคองเกรสในปี 1986 โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้การเข้าประเทศสหรัฐฯด้วยจุดประสงค์ทางธุรกิจและท่องเที่ยวเป็นไปอย่างง่ายดายขึ้น และเพื่อให้หน่วยงานของรัฐมุ่งเน้นไปที่ความเสี่ยงสูงขึ้น ประเทศ VWP ประเทศแรกคือสหราชอาณาจักร (กรกฎาคม 1988); ประเทศที่สองคือ ญี่ปุ่น (16 ธันวาคม 1988) , เนเธอร์แลนด์, ฝรั่งเศส, เยอรมันตะวันตก,อิตาลี, สวีเดน และสวิตเซอร์แลนด์ ในเดือนตุลาคม 1989 และในปี 1991 ได้มีการเพิ่มประเทศ สเปน, เดนมาร์ค, ฟินแลนด์, ไอซ์แลนด์, นอร์เวย์, ออสเตรีย, เบลเยียม, ลักแซมเบิร์ก, อันดอร์รา, ลิกเตนสไตน์, โมนาโค, และ ซาน มาริโน ส่วนประเทศนิวซีแลนด์ เป็นประเทศแรกจากโอเชียเนียที่เข้าร่วม โดยเข้าร่วมในปี 1991 และบรูไนที่เข้าร่วมในปี 1993 ถือเป็นประเทศที่สองของเอเชียที่เข้าร่วม
ไอร์แลนด์ ได้เข้าร่วม VWP ในปี 1995 ออสเตรเลีย และ อาร์เจนตินา (ประเทศละตินอเมริกาประเทศแรก โดยภายหลังได้ออจากโปรแกรมในปี2002) เข้าร่วมในปี1996. สโลวีเนีย เข้าร่วมเมื่อ 30 กันยายน 1997 ส่วนสิงคโปร์, โปรตุเกส, และอุรุกวัย (ออกใน 2003) เข้าร่วมเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 1999

การบริหารของจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช ได้เพิ่มความเข้มงวดของข้อกำหนดหลังจากเกิดเหตุการณ์โจมตีในวันที่ 11 กันยายน โดยรวมถึงการเพิ่มกฎหมายให้ผู้เดินทาง VWP ที่เข้ามาในประเทศสหรัฐฯใช้หนังสือเดินทางที่สามารถอ่านโดยเครื่องได้ในวันที่ 1 ตุลาคม 2003 โดยประเทศ VWP หลายประเทศยังมีการออกหนังสือเดินทางที่ไม่สามารถอ่านโดยเครื่องได้ โดย 33% ของนักเดินทางชาวสเปนและฝรั่งเศสยังคงใช้หนังสือเดินทางที่ไม่สามารถอ่านโดยเครื่องได้ ดังนั้นข้อกำหนดของหนังสือเดินทางนี้จึงเลื่อนออกไปจนถึง 26 ตุลาคม 2004 ยกเว้นสำหรับประเทศเบลเยียม เนื่องจากสหรัฐฯมีข้อสงสัยที่ร้ายแรงเกี่ยวกับความครบถ้วนและความปลอดภัยของหนังสือเดินทางเบลเยียม
และก่อนหน้านี้สหรัฐฯยังมีการตั้งว่าวันที่ 26 ตุลาคม 2004 เป็นวันเริ่มใช้ข้อบังคับว่าหนังสือเดินทางทุกเล่มของผู้เดินทาง VWP จะต้องมีลักษณะทางชีวมิติ (biometric) โดยเมื่อข้อกำหนดที่หนังสือเดินทางจะต้องสามารถอ่านโดยเครื่องได้ได้เปลี่ยนไปเป็นวันนั้น จึงมีการเปลี่ยนวันเริ่มใช้ข้อกำหนดเกี่ยวกับชีวมิติเป็นวันที่ 26 ตุลาคม 2005 และได้มีการเลื่อนไปเป็นวันที่ 26 ตุลาคม 2006 เนื่องจากสหภาพยุโรปเชื่อว่าจะมีหลายประเทศที่ไม่สามารถทำตามข้อกำหนดนี้ได้ก่อนวันที่กำหนดในปี 2005

และในที่สุดข้อกำหนดเกี่ยวกับชีวมิติก็ได้บังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม 2006 และหนังสือเดินทางที่ออกในวันนั้นหรือหลังจากนั้นจะต้องเป็นหนังสือเดินทางที่มีลักษณะทางชีวมิติ อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้นประเทศบรูไน, ลิกเตนสไตน์ และอันดอร์รา ยังไม่มีการออกพาสปอร์ตชีวมิติ

ESTA (ระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อการอนุญาตให้เดินทาง)ได้ประกาศสู่สาธารณะชนในเดือนพฤศจิกายน 2006 โดยมีพื้นฐานมาจากระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อการอนุญาตให้เดินทางของออสเตรเลีย และมีเจตนาที่จะให้ผู้เดินทางในโปรแกรม VWP สามารถให้ข้อมูลการเดินทางของพวกเขาแก่ทางการสหรัฐฯก่อนการเดินทาง เพื่อที่ทางการสหรัฐฯจะได้ออกใบอนุญาตอิเล็กทรอนิกส์ให้สามารถเดินทางเข้าประเทศได้ (แต่ไม่ได้ยืนยันว่าจะได้รับอนุญาตให้เข้า)

เนื่องจากโปรกรมนี้เริ่มขึ้นที่ประเทศออสเตรเลีย จึงควรรู้เกี่ยวกับการใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อการอนุญาตให้เดินทางของออสเตรเลีย ระบบอนุญาตเดินทางอิเล็กทรอนิกส์(ETA)ของออสเตรเลีย ETA เป็นวีซ่าอิเล็กทรอนิกส์ที่เก็บอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ของหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองและสัญชาติ หรือ DIAC (Department of Immigration and Citizenship) ผู้เดินทางเข้าประเทศออสเตรเลียทุกคนจะต้องยื่นคำร้องขอวีซ่า (ไม่ว่าจะเป็น ETA หรือแบบธรรมดา) ยกเว้นชาวนิวซีแลนด์ ที่จะได้รับวีซ่าโดยอัตโนมัติเมื่อเดินทางถึงออสเตรเลีย ภายใต้ข้อตกลงการเดินทาง Trans-Tasman นอกจากข้อยกเว้นหนึ่งข้อสำหรับพลเมืองนิวซีแลนด์แล้ว ETA ได้เข้ามาแทนที่การเดินทางเข้าออสเตรเลียโดยไม่ต้องใช้วีซ่า ถึงแม้ว่าผู้เดินทางจะต้องซื้อ ETA (ออนไลน์จาก DAIC หรือจากสายการบินหรือบริษัททัวร์ที่ได้รับอนุญาต) และออสเตรเลียเป็นประเทศเดียวที่บังคับใช้กฎนี้สำหรับพลเมืองอเมริกัน กระบวนการนี้ก็มีความไม่เป็นทางการเพียงพอที่จะทำให้สหรัฐฯยอมรับข้อตกลงที่ได้มาตรฐานตามข้อตกลงซึ่งกันและกันของทั้งสองประเทศ (การให้พำนักอาศัยเพื่อจุดประสงค์ทางธุรกิจหรือการท่องเที่ยวได้ 90 วันโดยไม่ต้องใช้วีซ่า) นักเดินทางชาวยุโรปหลายคน (รวมทั้งพลเมืองของประเทศในสหภาพยุโรป) ก็ใช้โปรแกรม eVisitor ที่มีความคล้ายคลึงกันมาก (แต่ไม่มีค่าใช้จ่าย) โดยรวมแล้วระบบ eVisitor ก็มีความคล้ายคลึงกับข้อกำหนดในการขอ ESTA ของโปรแกรมVWP ของสหรัฐฯอย่างมาก

ข้อกำหนดของ VWP

ผู้เดินทางจะต้องมีคุณสมบัติตามข้อกำหนดต่อไปนี้เพื่อเข้าร่วมโปรแกรมยกเว้นการขอวีซ่า:

  • ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2016 ผู้เดินทางทุกคนจะต้องมีหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์
  • แฃะภายใต้ VWP ผู้เดินทางแต่ละคนจะต้องมีหนังสือเดินทางเป็นของตนเอง หมายความว่าลูกๆของคุณจะ้ตองมีหนังสือเดินทางของตนเองในการเดินทางกับคุณ พวกเขาไม่สามารถใช้หนังสือเดินทางของคุณได้
  • ก่อนหน้านั้น ข้อกำหนดของหนังสือเดินทางมีดังนี้:
  • หนังสือเดินทางทุกเล่มจะต้องมีข้อมูลชีวมิติและจะต้องเป็นหนังสือเดินทางที่สามารถอ่านโดยเครื่องได้
  • พลเมืองของประเทศที่เป็นส่วนหนึ่งของ VWP ก่อนปี 2008 จะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดเกี่ยวกับวันออกหนังสือดเินทางต่อไปนี้:
  • หนังสือเดินทางออกก่อนวันที่ 26 ตุลาคม 2005 จะต้องเป็นหนังสือเดินทางที่อ่านโดยเครื่องได้
  • หากหนังสือเดินทางออกระหว่างวันที่ 26 ตุลาคม 2005 และ 26 ตุลาคม 2006 นอกจากจะต้องเป็นหนังสือเดินทางที่อ่านโดยเครื่องได้แล้ว หนังสือเดินทางนั้นจะต้องมีรูปถ่ายดิจิตอล
  • หากหนังสือเดินทางออกหลังวันที่ 26 ตุลาคม 2006 หนังสือเดินทางนั้นจะต้องเป็นหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ที่มีข้อมูลชีวมิติ ซึ่งหมายความว่าจะต้องเป็นหนังสือเดินทางที่บรรจุชิปอิเล็กทรอนิกส์ที่มีทั้งข้อมูลชีวมิติและข้อมูล(ประวัติ)ส่วนตัวของผู้ถือหนังสือเดินทาง
  • ข้อกำหนดเกี่ยวกับหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์นี้บังคับใช้กับประเทศที่เพิ่งเข้าร่วม VWP (ชิลี, สาธารณรัฐเช็ค, ฮังการี, สาธารณรัฐสโลวัค, เอสโตเนีย, ลัตเวีย, ลิทัวเนีย, มอลตา, กรีซ, และ เกาหลีใต้)

ESTA

ตั้งแต่วันที่ 3 มิถุนายน 2008 หากคุณเดินทางไปยังสหรัฐฯภายใต้ VWP คุณจะต้องยื่นคำร้องขอ ESTA (ระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อการอนุญาตให้เดินทาง) ก่อนการเดินทางไปยังสหรัฐฯ กระบวนการยื่นคำร้องเป็นกระบวนการออนไลน์และถึงแม้จะไม่มีการกำหนดเวลาการขอ เราขอแนะนำให้คุณยื่นคำร้องสามวัน (72 ชั่วโมง) ก่อนการเดินทางไปยังสหรัฐฯ ESTA มีอายุสองปีนับตั้งแต่วันที่ออก โปรแกรม ESTA นี้มีพื้นฐานมาจากระบบอิเล็กทรอนิกส์อนุญาตให้เดินทางที่ใช้ในประเทศ. ออสเตรเลีย

จุดประสงค์ของข้อกำหนดนี้คือการอนุญาตให้สามารถตรวจสอบผู้เดินทางจากประเทศ VWP จากรายชื่อและฐานข้อมูลของผู้ต้องสงสัยเกี่ยวกับการก่อการร้ายหรือบุคคลต้องห้าม; กล่าวคือเป็นตัววัดความปลอดภัย ผู้เเดินทาง VWP จำเป็นต้องมี ESTA อย่างไรก็ตาม ESTA นี้ไม่ได้เป็นเครื่องยืนยันว่าคุณจะได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศ โดยการตัดสินใจอนุญาตให้เข้าประเทศนั้นอยู่ในดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ CBP ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองที่คุณเดินทางเข้าประเทศสหรัฐฯ

ข้อควรทราบจากกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ:

  • คุณสามารถใช้ ESTA ที่ได้รับการอนุมัติแล้วเดินทางเข้าสหรัฐฯหลายครั้ง
  • ESTA ที่ได้รับการอนุมัติแล้วมีอายุสองปี หรือจนกว่าหนังสือเดินทางจะหมดอายุ - หากหนังสือเดินทางหมดอายุก่อนเวลาสองปี
  • ESTA ที่ได้รับการอนุมัติแล้ว ให้คุณสามารถเดินทางเข้าสหรัฐฯโดยพาหนะที่ได้รับอนุญาตภายใต้ VWP เท่านั้น โดย ESTA ไม่ได้รับรองว่าคุณจะได้เข้าประเทศสหรัฐฯ เจ้าหน้าที่ CBP ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองจะเป็นผู้พิจารณาว่าคุณจะสามารถเข้าประเทศได้หรือไม่
  • ผู้เดินทางเข้าประเทศสหรัฐฯจากประเทศ​VWP จะต้องมี ESTA ที่ได้รับการอนุมัติแล้วก่อนออกเดินทางไปสหรัฐฯโดยอากาศยานหรือเรือที่ได้รับการอนุมัติภายใต้
  • พาหนะและตั๋วโดยสารเดินทางต่อ/กลับ
  • เมื่อคุณเดินทางถึงสหรัฐฯโดยทางอากาศหรือทะเล คุณต้อง:
  • มีตั๋วโดยสารสำหรับเดินทางกลับประเทศ หรือเดินทางต่อไปยังประเทศอื่น
  • เดินทางโดยสารการบินหรือบริษัทเดินเรือที่เข้าร่วมโครงการอนุญาต

หนังสือเดินทางที่ใช้งานได้

โดยทั่วไปแล้ว สหรัฐฯกำหนดว่าหนังสือเดินทางของผู้เดินทางจะต้องมีอายุเหลือไม่น้อยกว่าหกเดือนหลังจากที่ผู้เดินทางเดินทางออกจากสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม มีข้อตกลงระหว่างสหรัฐอเมริกากับหลายประเทศในการยกเว้นข้อกำหนดนี้

ข้อกำหนดเบ็ดเตล็ด

ในการเดินทางเข้าสหรัฐฯภายใต้ VWP คุณต้อง:

  • มีความประสงค์จะเดินทางไปสหรัฐฯเพื่อการท่องเที่ยว, ธุรกิจระยะสั้น, หรือเพื่อเดินทางผ่านไปยังประเทศอื่น หากคุณเป็นนักข่าวหรือเป็นเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับข่าวที่ประสงค์จะเดินทางไปสหรัฐฯเพื่อรายงานข่าว คุณไม่สามารถเเดินทางด้วย VWP ได้ และจะต้องใช้วีซ่าประเภท I
  • หากคุณเดินทางไปสหรัฐฯ คุณจะต้องทำตามกฎระเบียบและเงื่อนไขของการเดินทางครั้งนั้น
  • คุณจะต้องไม่เคยถูกจับกุมหรือถูกพิพากษาว่ามีความผิดเกี่ยวกับ ก) อาชญากรรมสองคดีหรือมากกว่าที่มีโทษจำคุกสูงสุดมากกว่าห้าปี ข) อาชญากรรมเกี่ยวกับสารควบคุม หรือ ค) อาชญากรรมที่เกี่ยวกับความผิดทางศีลธรรม กฎหมายที่เกี่ยวกับการยกเลิกประวัติอาชญากรรมหลังจากระยะเวลาที่กำหนดไม่มีผลต่อข้อกำหนดนี้ (รวมถึงประมวลกฎหมายฟื้นฟูผู้กระทำความผิด ปี 1974 ของสหราชอาณาจักร) คำถามในแบบฟอร์มยื่นคำร้องขอ ESTA ในหัวข้อนี้เป็นคำถามที่เฉพาะเจาะจงและคุณจะต้องตอบตามความจริง ในบางกรณีคุณอาจจะได้รับการยกเว้น โดยการตัดสินใจเกี่ยวกับการยกเว้นนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะแวดล้อมของสหรัฐฯซึ่งอาจให้การยกเว้นเหล่านี้: ก) หากคุณได้กระทำความผิดข้อเดียวที่เทียบได้กับโทษจำคุกของสหรัฐฯเป็นเวลาน้อยกว่าหนึ่งปี และคุณได้จำคุกเป็นเวลาน้อยกว่าหกเดือน หรือ ข) หากคุณได้กระทำความผิดข้อเดียวเมื่อคุณอายุน้อยกว่า 18 ปี และได้รับการปล่อยตัวมานานกว่าห้าปีก่อนที่จะยื่นคำร้องขอวีซ่า
  • ไม่เป็นผู้ไม่สามารถเข้าประเทศสหรัฐฯได้เนื่องจากเหตุผลอื่นๆ รวมถึงเหตุผลเกี่ยวกับความมั่นคงและสุขภาพ
  • หากคุณไม่มีคุณสมบัติเหล่านี้ คุณจะต้องยื่นคำร้องขอวีซ่าท่องเที่ยวที่สถานทูตหรือสถานกงสุลสหรัฐฯ

หมายเหตุ: ในบางกรณี สถานทูตและสถานกงสุลสหรัฐฯแนะนำให้ผู้เดินทางยื่นคำร้องขอวีซ่าท่องเที่ยวมาตรฐาน (แทนที่จะขอ VWP) แม้ว่าผู้เดินทางมีคุณสมบัติเหมาะสมกับ VWP โดยกรณีนี้อาจเกิดจากการที่คุณเคยถูกปฏิเสธการเข้าประเทศสหรัฐฯ คุณอาจจะยังมีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับ VWP แต่หากคุณยังไม่ได้แก้ไขปัญหาที่ทำให้คุณถูกปฏิเสธนั้น คุณอาจจะถูกปฏิเสธอีกครั้ง และคุณอาจจะได้รับคำแนะนำให้ยื่นขอวีซ่าหากคุณเคยถูกจับกุมหรือพิพากษาว่ามีความผิดทางอาชญากรรม อย่างไรก็ตามอาจมีข้อยกเว้น โดยจะถือว่าคุณมีคุณสมบัติไม่เหมาะสมหากคุณไม่ทำตามข้อกำหนดของ VWP เท่านั้น

หากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองปฏิเสธที่จะให้คุณเข้าประเทศสหรัฐฯ คุณจะไม่มีสิทธิคัดค้านเว้นแต่ว่าหากคุณมีวีซ่า คุณจะสามารถคัดค้านต่อกรรมการตรวจคนเข้าเมืองได้

ข้อจำกัดของ VWP

ภายใต้โปรแกรมยกเว้นการขอวีซ่า:

  • คุณไม่สามารถยื่นขอต่อเวลาการพำนักได้ แต่หากคุณมีวีซ่าคุณสามารถต่อเวลาได้ และคุณยังสามารถยื่นขอเปลี่ยนสถานะได้หากคุณเดินทางภายใต้ VWP หากคุณยื่นขอลี้ภัยหรือสมรสกับพลเมืองอเมริกัน
  • คุณไม่สามารถคัดค้านการปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศได้ เมื่อคุณเดินทางด้วย VWPมาถึงสหรัฐฯ เจ้าหน้าที่ศุลกากรและตรวจคนเข้าเมือง (CBP) จะพิจารณาอนุญาตให้เข้าประเทศ การตัดสินใจนี้ถือเป็นที่สิ้นสุด ถึงแม้คุณจะมี ESTA ที่ได้รับการอนุมัติแล้วก็ตาม และคุณไม่มีช่องทางใดๆในการคัดค้านหรือขอให้พิจารณาใหม่
  • คุณไม่สามารถต่อเวลาการพำนักได้โดยเดินทางไปยังประเทศใกล้เคียง (เม็กซิโก, แคนาดา, หรือหมู่เกาะแคริบเบียน) แล้วกลับเข้ามายังสหรัฐฯใหม่ การนับเวลาจะเริ่มนับเป็นเวลา 90 วันหลังจากวันแรกที่คุณเดินทางถึงสหรัฐฯ
  • คุณจ้องแสดงว่าคุณมีความผูกพันทางเศรษฐกิจและสังคมกับประเทศของคุณ
  • คุณไม่สามารถทำงานส่วนใหญ่ในสหรัฐฯในระหว่างการเดินทางของคุณ​โดยทั่วไปแล้วมีข้อยกเว้นสำหรับการประชุมทางธุรกิจหรือวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่การงานในประเทศของคุณ และอาจ(แต่ไม่การันตีว่า)รวมถึงการบริการทางวิชาชีพในฐานะตัวแทนของผู้จ้างงานนอกสหรัฐฯ และการบริการติดตั้ง หรือซ่อมแซมเครื่องมือทางอุตสาหกรรมซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขาย หากคุณฌป็นศิลปินหรือนักแสดงและคุณวางแผนที่จะแสดงสดหรือทำการบันทึกการแสดงสำหรับโปรดักชันในประเทศของคุณ หรือหากคุณเป็นนักกีฬาที่เดินทางมาสหรัฐฯเพื่อร่วมงานกีฬา คุณจะต้องใช้วีซ่าชนิด O หรือ P แทนการเดินทางด้วย VWP หากคุณฌป็นนักข่าวที่เดินทางมาสหรัฐฯเพื่อรายงานข่าว คุณต้องใช้วีซ่าประเภท I